วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563

"จาตุรนต์" ห่วงปัญหาไข่แพง-ขาดตลาด


นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาไข่ไก่ขาดตลาดและราคาแพงว่า ตนพอรู้ปัญหาไข่ไก่อยู่บ้างเนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรามีการเลี้ยงไก่ไข่มากที่สุดในประเทศ โดยได้สอบถามเจ้าของฟาร์มและหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเข้าใจว่าปัญหาไข่ไก่ขาดตลาดและราคาแพงนี้เป็นปัญหาที่แก้ได้ไม่ยาก

ภาวะไข่ไก่ขาดตลาดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันและชั่วคราวเท่านั้น หากดูแลให้ดีมีวิธีการที่ถูกต้องไม่ไปซ้ำเติมปัญหา คนไทยจะมีไข่ไก่กินเกินพอในราคาไม่แพงผิดปรกติแน่นอน

ที่รัฐบาลควรดูแลให้ดีคือสินค้าจำเป็นโดยเฉพาะอาหารประเภทอื่นที่กักตุนได้ แต่อย่าไปแทรกแซงจนไม่เกิดการผลิตหรือทำลายวงจรการค้าขาย

ประเทศไทยเป็นครัวโลก ถ้าจัดการดีๆไม่มีทางขาดแคลนอาหาร เราควรจะใช้วิกฤตเป็นโอกาสผลิตให้เกินพอสำหรับใช้ในประเทศและส่งออกอาหารในยามที่โลกจะขาดแคลนด้วยซ้ำ

นายจาตุรนต์กล่าวว่าทั่วประเทศมีไก่ไข่อยู่ประมาณ 50 ล้านตัว มีไขไก่วันละประมาณ 40 ล้านฟอง ตัวเลขนี้อาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่ประเด็นสำคัญคือมีไข่ไก่พอแน่ ปรกติมีการส่งไข่ไก่ออกนอกเพียง 2-3 %  ของไข่ไก่ทั้งหมดและราคาไม่ค่อยดี ใน 3-4 ปีมานี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 20-30 ล้านคนก็บริโภคไข่ แต่ขณะนี้นักท่องเที่ยวหายไปหมดและคงมีน้อยตลอดปี ส่วนการกักตุนก็เป็นไปไม่ได้เพราะไข่ไก่เก็บไว้ไม่ได้นาน ใครเก็บไว้นานก็จะเสีย ต่อไปข้างหน้า แนวโน้มไข่จะล้นตลาดด้วยซ้ำ

ที่ไข่ไก่ขาดตลาดในช่วงนี้เป็นเพราะคนอยู่กับบ้านกันมากต้องทำอาหารกินเอง ไข่ไก่ทำกับข้าวได้ง่ายสะดวกและแต่ละบ้านก็กลัวจะหาซื้ออาหารได้ยากจึงซื้อกันคนละมากๆ แต่ถ้าซื้อมากจนเกินไปก็จะกินไม่ทัน การซื้อไข่ไก่ก็จะน้อยลง

เท่าที่ได้ข้อมูลรัฐบาลควรทำอยู่ 2 อย่างและไม่ควรทำอยู่ 2 อย่าง

ที่ควรทำคือ
1. ดูแลไม่ให้อาหารสัตว์ขึ้นราคาและ
2. ให้ข้อมูลแก่ประชาชนว่ามีไข่พอแน่และราคาจะไม่แพงผิดปรกติ ผู้ที่ซื้อได้ ไม่ต้องซื้อครั้งละมากๆ

ที่ไม่ควรทำคือ
1. ไม่พยายามไปกำหนดราคาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและ
2. ไม่ไปตัดวงจรการค้าของเขาซึ่งต้องอาศัยหั่งเช้ง ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และผู้ค้าปลีก รัฐบาลไม่ควรคิดไปขายเสียเองหรือจ้องจับผิดเจ้าของฟาร์มซึ่งส่วนใหญกำหนดราคาเองไม่ได้และไม่ควรไปเอาเป็นเอาตายกับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย

หากดำเนินการอย่างถูกต้องปัญหาไข่ไก่ขาดตลาดและราคาแพงจะแก้ได้ในเวลาสั้นๆ

นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสนใจจริงจังคือการดูแลให้สินค้าจำเป็นรวมทั้งอาหารให้มีเพียงพอไม่ให้ขาดตลาดและราคาแพงเกินไปโดยเฉพาะสินค้าที่กักตุนได้และมีการผูกขาดโดยผู้ผลิตหรือผู้ค้ารายใหญ่ สำหรับอาหารนั้นถ้าจัดการให้ดีประเทศไทยไม่ขาดอาหารแน่ เพราะประเทศไทยเป็นครัวโลก ผลิตได้เกินพอ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็หายไป อาหารจะเกินพอสามารถส่งออกได้มากด้วยซ้ำ ที่สำคัญอย่าไปแทรกแซงจนเขาลดการผลิต อย่าไปทำลายวงจรการผลิตและการค้าเช่นถ้าร้านอาหารปิดกันหมดคนปลูกผักก็ไม่รู้จะไปขายใคร ก็จะหยุดปลูก ต้องส่งเสริมให้ผลิตมากๆและใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ผลิตอาหารให้เพียงพอใช้ในประเทศและส่งออกให้มากเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ รัฐบาลจะได้มีเงินมาใช้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนซึ่งจะต้องดูแลกันอีกนานและใช้เงินมหาศาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น