น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.กทม. ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมายอมรับว่า การจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทตามโครงการเราไม่ทิ้งกัน ว่าตลอดระยะเวลา 3 วันได้จ่ายไปเพียง 1.4 ล้านคน เท่านั้น ซึ่งหมายความว่ายังมีผู้เดือดร้อนอีกจำนวนมากยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งตรงกับที่พรรคเพื่อไทยได้รับร้องเรียน เรื่องนี้ตนเองขอขอบคุณรัฐบาลที่พูดความจริงและอยากให้เร่งรัดการจ่ายเงินให้ถึงมือผู้เดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
“วันนี้ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ออกมายืนยันว่าจะดูแลพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะจากการลงพื้นที่ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพบว่ายังมีกลุ่มอาชีพตกงานและขาดรายได้จากมาตรการของรัฐอีกหลายกลุ่มที่ยังได้รับเงินชดเชยไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องหยุดการประกอบอาชีพจากคำสั่งของเจ้าพนักงานปกครองเช่น ผู้ประกอบอาชีพร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านสปา ร้านนวด โรงภาพยนต์ โรงละคร ร้านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศน์ ฯลฯ หรือ กลุ่มอาชีพผู้มีรายได้น้อยที่รายได้ลดลงจากมาตรการของรัฐ เช่น เเท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ สามล้อเครื่อง รถสองแถว หาบเร่แผงลอย ลูกจ้างที่ถูกลดเงินเดือน ฯลฯ ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเงินสะสม และขาดรายได้มาหลายอาทิตย์ บางครอบครัวไม่เหลือเงินติดบ้านแล้ว จึงต้องรอพึ่งเงินชดเชยจากรัฐบาลอย่างเดียว จึงหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้เดือดร้อนทุกคนโดยเร็วที่สุด”
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเองทราบว่ากระทรวงการคลัง เพิ่งจะจ่ายเงินเยียวยาล็อตแรกเท่านั้นและจะมีการทะยอยจ่ายอีก โดยขอให้ประชาชนอย่ากังวล หากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่วางไว้ จะได้เงินเยียวยาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตนเองขอเน้นว่า เวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ ตนเองเห็นความตั้งใจจริงของ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับทีมงาน ที่ทำงานแข่งกับเวลาเพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับทุกคน แต่ต้องยอมรับว่าประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนพร้อมๆกันทั้งประเทศจึงเกิดความล่าช้า ดังนั้นตนขอให้กำลังใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับทีมงานทุกคน ให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วง เพื่อให้เงินถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด
“ผมขอยืนยันว่าไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทยจะช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยจะให้ข้อมูลความเดือดร้อนที่แท้จริงของประชาชนกับรัฐบาลด้วย เพราะ ส.ส.ทุกคนอยู่ในพื้นที่จึงได้รับฟังปัญหาจากผู้เดือดร้อนโดยตรง อย่างไรก็ตามการสะท้อนปัญหาบางเรื่องอาจฟังแล้วขัดหูไปบ้างต้องขออภัย แต่ก็อยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้าง เพราะวันนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านย่อมยึดเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก จึงต้องเสนอทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา อย่างกรณีล่าสุดที่ธนาคารกรุงไทยจะแจ้งให้ประชาชนที่ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนมาลงข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองล็อตแรก โดยธนาคารจะแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสหรืออีเมล์นั้น เป็นเรื่องที่ต้องชมเชยและพรรคเพื่อไทยจะช่วยกันกระจายข่าว หากประชาชนมีปัญหาอะไรเพิ่มเติมจะได้นำมาสะท้อนให้ทราบต่อไป ขอให้มั่นใจว่าเราจะจับมือฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น