รัฐย่อมมีอำนาจที่จะออกคำสั่งล็อกดาวน์หรือห้ามประชาชนประกอบกิจการได้ เพราะเป็นการออกคำสั่งเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ แต่จะต้องชดเชยหรือเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว และเพื่อให้การจ่ายเงินเกิดความเป็นธรรม ทั่วถึง และมีผลเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐควรดำเนินการ ดังนี้
(1) สร้างกระบวนการเยียวยาที่ไม่เกิดความยุ่งยาก โดยจ่ายเป็นครัวเรือนตามทะเบียนบ้านซึ่งจะทำให้ตรวจสอบง่ายโดยอาจจ่ายครัวเรือนละ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน และจ่ายคราวเดียวพร้อมกันเพื่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
(2) อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับเงินเร็วที่สุด ให้ประชาชนนำสำเนาทะเบียนบ้านไปขอขึ้นเงินกับธนาคารได้แล้วรัฐค่อยโอนเงินคืนให้ธนาคารต่อไป
(3) ผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนได้กลับคืนชีวิตปกติด้วยวิถีแบบใหม่ (new normal) โดยยอมรับว่าเราไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ แต่สามารถควบคุมให้มีการแพร่ในระดับที่ต่ำ (low transmission) มีการสูญเสียชีวิตน้อยเพราะโรงพยาบาลรองรับได้ทัน ในขณะเดียวกันก็เริ่มเปิดโอกาสให้ผู้คนทํามาหากินโดยเฉพาะธุรกิจรากหญ้าควรได้รับโอกาสแรกเพื่อให้เกิดการซื้อขาย เกิดการผลิตและสังคมไม่หยุดนิ่ง มีการพัฒนาที่สมดุลทั้งการควบคุมโรคและการประกอบกิจกรรมต่างๆ
(4) สำหรับผู้ที่อาจตกหล่นทางทะเบียน เช่น ผู้เช่า หรือผู้ที่ไม่มีสิทธิได้รับเพราะเหตุอื่นก็ให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมได้
(5) หากรัฐบาลต้องการปิดน่านฟ้าต่อเพราะกลัวการแพร่ระบาดจากต่างประเทศ ก็ควรจัดเที่ยวบินไปรับคนไทยที่ติดอยู่ในต่างประเทศได้กลับบ้าน ตามวิธีที่อารยประเทศปฏิบัติต่อคนชาติของตน
รีบดำเนินการ อย่าปล่อยให้คนต้องฆ่าตัวตายเพราะไม่ได้รับเงินเยียวยา บาปครับ
วัฒนา เมืองสุข
21 เมษายน 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น