1) พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท)
2) พ.ร.ก. การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563
3) พ.ร.ก. การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563
โดยระบุว่า "เป็นพระราชกำหนดที่ให้อำนาจของคณะกรรมเข้ามาดูแล แทนที่จะเป็นอำนาจของประชาชน รัฐบาลนี้ก็ให้มาอยู่ในอุ้งมือของคณะกรรมการชุดหนึ่ง เช่น พรก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ให้มีคณะกรรมการ 11 คน ซึ่งก็จะเป็นตำแหน่งทางอำนวยการ เช่น ปลัดสำนักนายก เช่น เลขาสภาพัฒน์ คือเป็นตำแหน่งอำนวยการ ตำแหน่งวิชาการ และอีก 5 คน ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง และไม่มีการกำหนดระยะเวลา และไม่มีการกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามใด ๆ"
"ต้องยอมรับว่าคนทั้ง 11 คนนี้ มาใช้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งตรงนี้อยากจะให้ทางสื่อมวลชน ลองช่วยถามท่านนายกฯ ดูว่า 5 คนที่ท่านนายกฯ แต่งตั้งมานี้ เขาเป็นใคร ทำไมเขาจึงเอาอำนาจของประชาชน อำนาจของสภาฯ อำนาจของเงินภาษีอากรของประชาชน ทั้งประเทศ 1 ล้านล้าน เอาไปใช้ได้โดยไม่มีการเขียนเงื่อนไขหรือไม่เขียนวิธีการใด ๆ เลย และที่สำคัญเป็นการดูถูกคณะรัฐมนตรีทุกคน เพราะเอาอำนาจของรัฐมนตรีทุกคนเนี่ย ไม่มีสิทธิ์ใช้เงินเลย ให้มาอยู่ในอุ้งมือคนกลุ่มนี้หมด"
"แม้แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนห้ามไว้ว่า ถ้าคุณจะมีลูกของคณะกรรมการ คุณจะต้องไปเขียนเงื่อนไขหรือกำหนดความผิด....ในอดีตสมัยคดี ปรส. คณะกรรมการแม้แต่ญาติพี่น้องตนเอง ยังไม่สามารถไปประมูลได้เลย เพราะเกี่ยวข้องเกี่ยวพัน แต่ในพระราชกำหนดฉบับนี้ ไม่ได้มีการเขียนไว้เลย นี่คือคณะกรรมการ 11 คนแรกที่เอาอำนาจของสภา 500 คน ไปอยู่ในอุ้งมือของคนเพียง 11 คน" พันตำรวจเอกทวี กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น