นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากมาตรการล็อคดาวน์ในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งการปิดพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากมาตรการดังกล่าว ส่งผกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทั้งทางด้านรายได้และการใช้ชีวิตประจำวัน ประชาชนได้รับความลำบากมาก
โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดไม่ต่างจากเมืองร้าง ร้านค้า ร้านอาหาร ปิดกิจการ ในพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดอุบลราชธานี รายได้หายไปมากกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับหลายครอบครัวไม่มีรายได้ ในการดำรงชีพ และจากการลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท ในโครงการเราไม่ทิ้งกันก็ไม่ได้รับการเยียวยา ประชาชนท้อแท้สิ้นหวังกับการเยียวยาของรัฐบาล
นายวรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลควรที่จะผ่อนผันมาตรการล็อคดาวน์ในบางพื้นที่เพื่อเปิดพื้นที่เศรษฐกิจให้กับประชาชนมีกิจกรรมทางการตลาด มีการค้าขายและการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน หากไม่ทำอะไรเลยเชื่อว่าประชาชนคงมีการฆ่าตัวตายรายวันจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะประชาชนหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้
“หลังสถานการณ์โควิด รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นกำลังซื้อและการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อกลับมาเที่ยวในประเทศไทย หากหวังทางรอดทางเศรษฐกิจรัฐต้องมีแผนการที่ชัดเจนอย่าทำแบบขอไปที ควรนึกถึงความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก เพราะหลังจากนี้จะวัดฝีมือรัฐบาลว่าพร้อมแค่ไหนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย” นายวรสิทธิ์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น