เพื่อไทย บี้ ครม. ฟังเสียงประชาชน ชวนจับตานโยบายทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะดัน CPTPP ต่อจากสมคิดหรือไม่?
นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการฯ มีมติส่งความคืบหน้าการศึกษาเบื้องต้นให้คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมาว่า ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาถึงประเด็นอ่อนไหวของไทยอย่างรอบคอบ และต้องฟังเสียงประชาชน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจให้ไทยเข้าร่วมการเจรจา CPTPP
โดยรายงานเบื้องต้นของคณะกรรมาธิการฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดจากการเข้าร่วมความตกลง CPTPP เช่น ประเด็นอนุสัญญา UPOV1991 สิทธิบัตรยา การเปิดเสรีสินค้า บริการ และลงทุนอย่างเต็มรูปแบบ และมีคำถามในหลายประเด็นจากกรรมาธิการที่หน่วยงานยังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน รวมถึงผลการศึกษาที่ผ่านมาก็ยังไม่ครอบคลุมในทุกมิติ เช่น พาณิชย์อิเลกทรอนิกส์ สิทธิพิเศษทางศุลกากร และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ฯลฯ ดังนั้น รัฐบาลจึงควรรอให้เรื่องที่ค้างคาสรุปได้เสียก่อน นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และคณะ เพิ่งลาออกจากคณะรัฐมนตรี ดังนั้นทีมเศรษฐกิจที่จะตั้งขึ้นใหม่ก็ควรแสดงวิสัยทัศน์ต่อแนวนโยบายที่เกี่ยวกับการทำความตกลงการค้าเสรีก่อนด้วย การเร่งรีบพิจารณาโดยขาดข้อมูลรอบด้านก่อนการตัดสินใจใดๆ จะกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน
“CPTPP เป็นความตกลงที่มีผลใช้บังคับแล้ว มีการเปิดเผยข้อมูลของความตกลงอย่างละเอียดชัดเจน หน่วยงานไทยมีโอกาสศึกษารายละเอียดให้ถ่องแท้ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขอเจรจาโดยอ้างว่าไทยสนใจเข้าร่วม CPTPP แต่แท้ที่จริงเป็นการไปทดลองว่าจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เพราะการที่ไทยแจ้งต่อสมาชิก CPTPP ขอเจรจาและตั้งคณะทำงาน สมาชิกต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากทั้งเวลา บุคลากร และงบประมาณ รัฐบาลจึงต้องคำนึงถึงต้นทุนและภาพลักษณ์ของไทยด้วย” นางสาวจิราพร กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น