วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

"ทวี" สั่งรัฐหยุดรังแกนักศึกษา-คืนอำนาจประชาชน


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะ เดินทางมาขอเข้าเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวที่ ตชด.ภาค 1 ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา และเช้ามืดของวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่แยกปทุมวัน ซึ่งในขณะนั้นมีนักศึกษาและประชาชนที่ถูกควบคุมตัว 12 คน รวมถึง นายฟอร์ด ทัตเทพ เลขาธิการเยาวชนปลดแอก และอีก 2 คนเดิม คือ นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง


พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “สิ่งที่เป็นห่วงก็คือถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นนักศึกษานักกิจกรรม ปัญญาชนที่เป็นอนาคตของประเทศ ได้ออกมาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญคุ้มครองชุมนุมเรียกร้องปัญหาสังคม เศรษฐกิจ สิทธิเสรีภาพ และความเป็นธรรม แต่ระบบของประเทศที่เกิดจากรัฐบาล ก็คือมีการใช้อำนาจอยู่เหนือกฎหมายและอยู่เหนือความยุติธรรม การกระทำ จะสร้างความแตกแยกและประเทศไม่มีระบบนิติธรรม รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งฐานะของ พ.ร.ก.ที่มีศักดิ์ต่ำเป็นกฎหมายฝ่ายบริหาร แต่ใช้อำนาจอิทธิพลใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนในบ้านเมืองมันอยู่รวมกันยาก สิ่งที่นักศึกษาประชาชนเขามาเรียกร้องเห็นว่า 6 ปีมาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำการรัฐประหารและสถาปนาเป็นผู้นำได้ทำลายระบบต่างๆของประเทศ ซึ่งการที่มีอำนาจมากเสื่อมมาก ท่านมีอำนาจเบ็ดเสร็จก็จะเสื่อมแบบเบ็ดเสร็จ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณเอาเงินภาษีอากรประชาชนไปใช้อย่างมากมาย แต่ประชาชนไม่ได้อยู่ดีกินดีเลยมีความเหลื่อมล้ำยากจน นักศึกษาประชาชนอยากจะเปลี่ยนเพื่ออนาคต เปลี่ยนนายกฯ ที่เป็นผู้บริหาร คือการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ การที่ลูกหลาน บางคนเป็นเด็กผู้หญิงออกมาจากโรงเรียน ชุมนุมเรียกร้องเพราะเขาเห็นว่าเขาไม่มีอนาคต ผมคิดว่าท่านนายกฯ ก็เป็นผู้ใหญ่แต่บางทีความคิดท่านอาจจะมีปัญหา ต้องขอเรียนว่าการสลายการชุมนุมของรัฐ มีความรู้สึกเสียใจ ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการแถลงการณ์ไปว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้มีความแตกแยกยิ่งขึ้นแล้วยากที่จะประสานต่อไปได้”


“คิดว่าวันนี้สิ่งแรกรัฐต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประการต่อมาก็คือกรณีผู้ถูกจับ ที่เกิดจากอุดมการณ์ทางความเชื่อต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ การชุมนุมไม่ได้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาเศรษฐกิจเกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ การบริหารประเทศมีความเหลื่อมล้ำสร้างความยากจน มาจากรัฐบาล 


นอกจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ควรนำเรื่องที่มีความขัดแย้งเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร พรรคฝ่ายค้านก็เรียกร้องว่าจะเปิดวิสามัญเพื่อจะขอประชุมเอาเรื่องเข้ามาสู่สภา แต่ว่าเราก็ต้องขอเสียงของทางฝ่ายรัฐบาล 


ประการสุดท้ายก็คือรีบรับให้แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยคืนอำนาจให้ประชาชน ให้มี ส.ส.ร. ในการร่างรัฐธรรมนูญ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงเรื่องการสลายการชุมนุมไหม ถ้าเกิดมีการชุมนุมขึ้นอีกแล้วมีการใช้มาตรการอย่างที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า “อันนี้เป็นสิ่งที่จะประจานประเทศไทยไปทั่วโลก แล้วท่านจะอ้างเหตุอย่างไรก็ตาม แต่ความเป็นจริงคนอยู่ในพื้นที่ก็จะรู้ สิ่งสำคัญคือรัฐบาลถูกมองถูกประนามว่ารังแกคนด้อยโอกาสคนที่เขามามือเปล่าแล้วต้องการอยากจะมีอนาคตที่ดีขึ้น แล้วนักศึกษาและประชาชนค้นพบเห็นตรงกันว่ารากเหง้าของปัญหาก็คือตัวพล.อ.ประยุทธ์ จึงมาเรียกร้องตามสิทธิ์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าท่านไม่มีปัญหาอะไร ก็เรียนว่าท่านยึดอำนาจมาเป็นเรื่องไม่ถูกต้องแล้วยังสั่งให้เขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้ท่านสืบทอดอำนาจ และท่านไปเข้าใจว่าความมั่นคงของตัวท่านสำคัญกว่าความมั่นคงของประชาชน ทำให้ท่านมีทัศนคติมองประชาชนเป็นศัตรู อันนี้เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น