"จิรายุ" เตรียมยกร่างพรบ.คำสั่งเรียกใหม่เน้นแก้ไขให้สอดรับกับรธน.60 ชี้ต้องเพิ่มโทษ กรณี ขรก.หลบหลีกการตรวจสอบ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชน และ กองทุน กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมาธิการ คือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมี สิทธิในการ ถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร และ 3เสาของประเทศซึ่งการใช้พรบ คำสั่งเรียก ส่วนใหญ่จะใช้จากกรณีที่ข้าราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ตั้งใจไม่มา และมีเจตนาปกปิด ความผิด อย่างที่ตนพบ บางรายใช้แทคติก เพื่อที่จะไม่มา หรือปกปิดเอกสารเพื่อซ่อนความผิด ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้เสียภาษี เพราะ กมธ เป็นช่องทางเดียวที่ประชาชนจะมีส่วนร่วม ได้ และเท่าที่ตนทราบยังไม่เคยมีคณะกรรมาธิการคณะไหนใช้ พรบ.ที่มีโทษจำคุกนี้ อย่างคณะตนส่วนใหญ่ ก็ให้เกียรติเชิญเพื่อมาแสดงข้อเท็จจริงและความเห็นต่างๆเพื่อนำไปสู่การแก้ไข และ กมธ.ก็มีคณะทำงานลงไปสืบสวนทางลับอยู่แล้ว หากพบความผิด มีพยานหลักฐาน ก็สามารถใช้สิทธิ เขียนคำร้องข้อกล่าวหาต่อ ปปช ปปท หรือหน่วยงานอื่นๆได้อยู่แล้ว
ประธานกรรมาธิการยังกล่าวต่อไปอีกว่า ล่าสุดตนได้หารือกับคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ถึงการยกร่างแก้ไข พรบ.คำสั่งเรียก พศ.......ในการเปิดสมัยประชุมในเดือนหน้านี้เพื่อนำมาพิจารณาแก้ไขในวาระแรกของการเปิดประชุมรัฐสภา โดยจะขอเพิ่มโทษ ให้สูงขึ้น และ เขียนขั้นตอนให้รัดกุมในการใช้ เพื่อให้สอดรับ กับรัฐธรรมนูญ ฉบับ2560ต่อไป
“อำนาจของ พรบ.คำสั่งเรียก มีความจำเป็นที่จะต้องมีบทลงโทษเพื่อให้ผลการสอบ เป็นไปด้วยความสัมฤทธิ์ผลอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายบริหารเพราะ ในต่างประเทศ ทั่วไปก็ให้อำนาจนี้ไว้ เพราะถือว่า ฝ่ายบริหาร ยังมีอำนาจมีบทลงโทษตามกฎหมาย ที่ยังสามารถออกหมายเรียก การเข้าค้น การจับกุม คุมขัง แต่ฝ่ายนิติบัญญัติเพียงแค่เชิญมาชี้แจงย่อมต้องพึงมี เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร ที่สำคัญ ข้าราชการผู้ถูกเชิญหากไม่มีความผิด ไม่มีเจตนาปกปิดอะไร ก็ไม่มีเหตุผลที่จะ หลบหลีกการมาชี้แจงแต่อย่างใด" นายจิรายุกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น