“ทวี สอดส่อง” ส.ส.ประชาชาติ แนะ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตโดยเริ่มจากคณะรัฐมนตรีก่อน แนะตรวจสอบรัฐให้เอกชนผลิตไฟฟ้าขายประชาชนราคาแพง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณารายงานประจำปี 2561 ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวชื่นชม ป.ป.ช.ที่ส่งรายงานมา
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อภิปรายว่า “ต้องยอมรับว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจและหน้าที่ ค่อนข้างที่จะครอบคลุมในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ศาล หรือหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งรัฐสภาด้วย ซึ่งชื่นชมยุทธศาสตร์ 6 ด้าน เช่นสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ยกระดับเจตจำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต การสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบาย การพัฒนาระบบการป้องกันการทุจริตเชิงรุก การปฏิรูปกลไกและกระบวนการการปราบปรามการทุจริต และยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต จึงฝากเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าวันนี้การทุจริตของไทยอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง อาจจะเป็นปัญหาแทรกกันระหว่างระดับหนึ่งระดับสอง ระหว่างปัญหายาเสพติดปัญหาความยากจนและปัญหาการทุจริต ประเทศไทยได้สร้างโครงสร้างเพื่อให้อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. จึงขอฝากคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้ที่มาชี้แจง ว่าการกันไว้ดีกว่าแก้ คือการป้องกันอาชญากรรมดีกว่าการลงโทษอาจชญากร จึงขอฝากเรียนว่าจะทำอย่างไรให้เงินงบประมาณภาษีอากรของประชาชนที่ไปยังหน่วยรับงบประมาณ ไม่ให้มีการป้องกันการทุจริต แนะนำให้ดูงบประมาณของหน่วยที่รับงบประมาณที่มาขอ สำนักงบประมาณ หรือที่ส่งมารัฐสภา เรามีรัฐธรรมนูญมาตรา 140 ว่าหน่วยรับงบประมาณจะต้องปฏิบัติตามวินัยการเงินการคลัง ในครั้งนี้เราพบว่ามีจำนวนร้อยกว่าหน่วยงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานใหญ่ที่ สตง. ตรวจแล้วว่างบการเงินไม่ถูกต้อง หากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ หลักทรัพย์นั้นจะต้องหยุดการซื้อขาย แต่พบว่างบการเงินไม่ถูกต้องหลายหน่วยงานเช่นกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอื่นๆ กลับได้คะแนนจาก ป.ป.ช.ที่สูง เมื่อนำเงินภาษีอากรของประชาชนไปใช้แล้วมีปัญหา หรือกรมการปกครอง ซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ไม่สามารถตรวจสอบงบการเงินได้ แม้แต่กระทรวงการคลังเองงบเกี่ยวกับบัตรประชารัฐ 90,000 กว่าล้านบาทก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงขอให้ ป.ป.ช.ทำมาตรฐานทางบัญชี”
“อีกประการหนึ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 101 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนน 36 จาก 100 คะแนน ลำดับนี้จะยิ่งตกรั้งท้ายขึ้นทุกปี ดังนั้นการวัดความเชื่อมั่นของประเทศก็คือการวัดการทุจริตคอรัปชั่นของประเทศอยู่ในระดับไหน การจะสร้างมาตรฐานต้องเริ่มที่คณะรัฐมนตรีก่อน รวมถึง ส.ส.หรือ ส.ว.ก่อนว่าได้ปฏิบัติอยู่ในระบบคุณธรรมหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้ชัดจากยุทธศาสตร์การทุจริตเชิงนโยบายคือรัฐธรรมนูญระบุว่าระบบสาธารณูปโภค รัฐจะต้องทำ อย่าให้เอกชนทำมากกว่าร้อยละ 50 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือประชาชนใช้ไฟฟ้าในราคาแพงมากน่าจะลดจาก 4 บาทเหลือ 2 บาทเพราะรัฐบาลให้เอกชนขายไฟฟ้ารวมแล้วร้อยละ 70 แล้วรัฐบาลไปซื้อไฟฟ้าในราคาแพง ผลักภาระให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้าในราคาแพง แม้แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาชีว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังปล่อยปละละเลยมาจนถึงวันนี้ จึงเป็นเหมือนรัฐบาลอยู่ข้างนายทุน จึงขอฝากไปยัง ป.ป.ช.ว่าหากท่านทำเรื่องนี้ได้ ท่านช่วยคนไทยทั้ง 65 ล้านคน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น