วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564

"คุณปลื้ม" แนะรัฐเร่งเปิดเรียน "ประถม"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณปลื้ม-หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล โพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขไม่มีคำตอบให้กับประชาชน ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาว่าเหตุใดไม่ยอมเปิดสถานศึกษาทั้งทั้งที่คนซึ่งอยู่ในวัยอายุตั้งแต่ 5 ปีถึง 12 ปีนั้นไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการอะไรเลยจากการติดเชื้อโควิด

ทุกครั้งที่สื่อถามก็มักจะมีคำตอบอ้อมๆว่าไม่ต้องห่วงกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการซึ่งจะดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กๆ แท้ที่จริงแล้วเป็นความที่ไม่มีคำตอบและไม่มีความกล้าหาญที่จะยอมระบุให้ชัดเจนไปว่าโรงเรียนนั้นควรจะเปิดได้เลย สื่อดันไปสนใจเรื่องของการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีถึง 18 ปีทั้งทั้งที่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปกครองนั้นถามอยู่

ผู้ปกครองและเด็กซึ่งเรียนออนไลน์อยู่ทุกวี่ทุกวันในวันนี้ต้องการให้รัฐบาลเปิดโรงเรียนแต่รัฐบาลไม่ยอมเปิดโรงเรียนและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่การฉีดวัคซีนซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้ปกครองหรือเด็กๆเรียกร้องเป็นอันดับที่ 1 ทำไมไม่ยอมเปิดสถานศึกษาทั้งๆที่สามารถเปิดได้ส่วนวัคซีนถ้าจะนำเข้ามาฉีดก็เป็นสิ่งที่ทำได้ควบคู่กันไป

แต่สำหรับเด็กประถม ณ เวลานี้ก็ไม่มีวัคซีนสำหรับเด็กวัย 3-11 ปีในประเทศ เเละเอาจริงเเล้วเด็กซึ่งอยู่ในวัยประถมศึกษาก็มิจำเป็นต้องฉีด โรคนี้เป็นโรคซึ่งมีผลกระทบเป็นหลักสำหรับคนชราหรือคนที่มีร่างกายที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงหรืออ้วนมากเป็นพิเศษ  ถ้าเป็นเด็กซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรค 7 ประเภทและอายุ 18 ปีลงมาต่อให้ติดเชื้อโอกาสที่จะมีอาการขั้นรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตอยู่ที่เพียงแค่ 0.003% นี่คือตัวเลขที่แท้จริงในประเทศไทยที่ศบค.ไม่ยอมรับและไม่ยอมประกาศให้ผู้ปกครองเข้าใจ

รัฐใช้วิธีบริหารด้วยการขี่ความกลัวต่อเนื่อง ไม่ได้ยืนอยู่บนหลักการด้านวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงและตัวเลขในโลกแห่งความเป็นจริงว่าเด็กนั้นโอกาสที่จะเป็นอะไรจากโควิด19 นั้นน้อยมาก น้อยเกินคำบรรยายต่อให้ติดเชื้อ

ความขี้ขลาดของผู้ซึ่งถืออำนาจรัฐในบ้านในเมืองเราในวันนี้ทำให้เด็กต้องถูกปล้นการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นเวลามา 5 เดือนเต็ม ส่วนมากสุขภาพร่างกายแทนที่จะแข็งแรงขึ้นเพราะได้ออกกำลังกายทุกวัน สุขภาพจิตจะสมบูรณ์เพราะได้พบปะกับเพื่อนๆเเล้วได้มีกิจกรรมในสังคมของเขาตามปกติ เด็กกลับอาจจะมีปัญหาย่ำแย่มากขึ้นในทุกด้าน

เด็กจะอ้วนฉุมากขึ้นจากการล็อกดาวน์เด็กจะมีอาการเฉื่อยชาและจะมีร่างกายที่มีดัชนีมวลกายสูงขึ้น ความขี้เกียจครอบงำพฤติกรรมในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นด้วยความเคยชินที่ไม่ต้องออกไปทำอะไรนอกบ้านทั้งสิ้น ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะก่อเป็นปัญหาต่อสุขภาพตามมาทั้งนั้น

สภาพจิตวิทยาที่ย่ำแย่จากการเรียนออนไลน์ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือนทำให้เด็กจำนวนมากทั้งในระดับประถมและมัธยมนั้นเสียหายอย่างหนัก ความโง่เขลาของผู้หลักผู้ใหญ่ในศบค./สธและรัฐบาลในเวลานี้เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้เเละเป็นสิ่งที่กำลังทำให้เยาวชนทั้งเจนเนเรขั่นมีความรู้น้อยลงเพราะการขาดการศึกษา

ทั้งหมดนี้สะท้อนความคิดไม่เป็น ขาดความรู้ เอาตัวรอดด้วยการใช้วาทกรรม 'อ้างว่าปกป้องเด็ก' มาบังหน้า

เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องอีกครั้ง: เปิดโรงเรียน- คืนชีวิตให้ลูกหลานเราทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น