วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564

"ทวี สอดส่อง" นำฝ่ายค้านลงพื้นที่อ่างทอง ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ฝ่ายค้าน ลงเรือแจกสิ่งของยังชีพ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ชาวบ้านปลื้ม ส.ส.ชายแดนใต้มาไกลถึงอ่างทอง “ทวี สอดส่อง” ชี้รัฐบาลประมาทปล่อยให้เขื่อนระเบิดจนน้ำท่วมชาวบ้านเดือดร้อน 

วันนี้ 9 ตุลาคม 2564 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นำ ส.ส.พรรคประชาชาติจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี, นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส, นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา นางสาวธนภร โสมทองเเดง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทยและพร้อมด้วยตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตำบลจระเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ โดยระดับน้ำสูงถึง 2-3 เมตร ท่วมมาเกือบสัปดาห์แล้ว ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ จึงต้องพายเรือเข้าไป มวลน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สิ่งของในบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งพืชผลการเกษตรเสียหายอย่างหนัก บางหลังน้ำท่วมมิดหลังคา แต่บางหลังยังสามารถใช้ชีวิตอยู่บริเวณชั้นสองของบ้านได้ ชาวบ้านบอกกับ ส.ส.ฝ่ายค้านว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่รู้สึกดีใจที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านมาเยี่ยมถึงบ้าน และรู้สึกดีใจมากเมื่อทราบว่ามี ส.ส.พรรคประชาชาติที่มาไกลจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้กำลังใจถึงจังหวัดอ่างทองด้วย สะท้อนถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนไทยในสังพหุวัฒนธรรม ที่เราต้องช่วยเหลือกันในยามลำบากแม้รัฐบาลจะไม่เหลียวแลก็ตาม 

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัย อยากมาให้กำลังใจแก่พี่น้อง ความจริงเท่าที่ได้รับฟังมาอาจเป็นการเฉลียวใจหรือความประมาทของรัฐบาลที่ปล่อยให้เขื่อนชำรุดทรุดโทรมจนเกิดระบิดขึ้นและส่งผลให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือความสูญเสียในทรัพย์สิน ความสูญเสียโอกาสทางอาชีพ และสำคัญอย่างยิ่ง กว่าจะฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาพปกติก็คงใช้เวลาอีกนาน ในฐานะของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นอกจากมาให้กำลังใจแล้วก็จะมารับฟังปัญหาเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการฟื้นฟูเยียวยา หรือการพัฒนา ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมลักษณะนี้ทราบมาว่าไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นความประมาทของรัฐบาล ที่ปล่อยปะให้ขันเขื่อนกันแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างไว้ประมาณ 40 ปี สภาพชำรุดไม่ได้ปรับปรุงซ่อมแซมถูกแรงดันน้ำเกิดระเบิดพังจนเกิดน้ำทั่วมถือเป็นอุทกภัยใหญ่ใหญ่ของตำบลจรเข้ร้อง สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนทุกหย่อมหญ้า”

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวอีกว่า “ปัญหาต้องเจอกับอุทกภัย และปัญหาน้ำแล้ง ที่ประชาชนพบกับความเสียหายซ้ำซากเช่นนี้พี่น้องประชาชน ที่ต้องประสบเหตุต้องมีการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดกับพี่น้องประชาชน เราต้องใช้เงินเพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับมาดำรงชีพได้เช่นเดิม การเพาะปลูกที่ต้องเริ่มใหม่ การซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ  แต่สิ่งที่เราสูญเสียไปมากว่าเงินงบประมาณคือเวลา เราใช้เวลามาเท่าใดแล้วกับการที่ต้องยอมรับการบริหารจัดการน้ำ ที่มีปัญหายังเกิดซ้ำซากอยู่ ทั้งที่รัฐบาลได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งงบที่เรียกว่างบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการน้ำ ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.ซึ่งขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เฉลี่ยประมาณ 6 หมื่นล้านในทุก ๆ ปี ขาดประสิทธิภาพและไร้ทิศทางเพราะขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ผมเองก็เป็นคนจังหวัดอ่างทอง บ้านเกิดอยู่อำเภอแสวงหา ในฐานะที่เราเป็นพี่น้องบ้านเดียวกัน ก็ขอเป็นกำลังใจให้ นอกจากน้ำใจที่พวกเรามาแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะได้คือข้อมูลความเดือดร้อนของพี่น้องและจะได้นำไปขับเคลื่อนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป”











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น