วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

"มนตรี" รองโฆษกประชาชาติ แนะรัฐช่วยเกษตรกร-ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้ 


วัตถุอันตราย...ดูเหมือนไม่อันตราย!!

วิถีโลก...ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่เคยสอดคล้องเหมาะสมกับสังคมและธรรมชาติย่อมเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

ปัจจัยการผลิตด้านเกษตรกรรมก็หนีไม่พ้น แม้แต่ DDT (Dichloro Diphenyl Trichloroethane ) สารพิษหรือยาฆ่าแมลงตัวนี้เมื่อ 60 กว่าปีก่อนก็เป็นที่นิยมใช้กันอย่างมาก แต่พอกาลเวลาเปลี่ยนไปก็พบว่าเป็นอันตรายทั้งต่อมนุษย์และชั้นบรรยากาศอีกทั้งล้าสมัยเพราะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำหน้าที่ทดแทนได้ดีกว่า

ยาฆ่าหนอน ยาฆ่าแมลง รวมถึงยาฆ่าหญ้าต่าง ๆ อีกมากมายในปัจจุบัน ที่เคยใช้ได้ดีและเหมาะสม ปัจจุบันกำลังจะเป็นสิ่งที่ล้าสมัย พบว่ามีอันตรายร้ายแรงแต่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงลดปริมาณการใช้กลับทำได้ยาก.....เพราะคำว่า "ผลประโยชน์" เพียงคำเดียว

แม้ว่าจะมีสารเคมีตัวใหม่ๆ ที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่าก็ยังไม่สามารถนำมาทดแทนได้ และมักจะได้ยินแต่คำกล่าวอ้างว่ามีราคาแพง ไม่สะดวก  ไม่ให้การยอมรับ เนื่องด้วยเพราะผลประโยชน์ที่แอบแฝงอีกด้านหนึ่งเป็นเงาทะมึนบังตาเอาไว้    การตลาดที่จำหน่ายสินค้าตัวเก่า กำไรดี ไม่ต้องใช้งบทำตลาดใหม่  ยังคงนำเข้าในปริมาณมาก ๆ ราคาถูก  ง่าย ได้กำไรดี....

หรือแม้แต่การใช้จุลินทรีย์หรือสารชีวภัณฑ์ของประเทศไทยเราเอง ก็ยังขาดการสนับสนุน ขาดการส่งเสริม และยังใช้กฎระเบียบ เข้ามากำหนดจนเกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้าน หายใจไม่ออก อึดอัด จะผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์แบบง่ายๆ ใช้กันเองในหมู่บ้าน ก็จำเป็นต้องมี โรงงาน มีห้องแลป ที่จะต้องทุนสร้างมโหฬาร ฯลฯ ใครจะทำได้ เมื่อทำไม่ได้.......ผลประโยชน์ก็ไปตกอยู่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศที่ผูกขาดขายปุ๋ยและยาเคมีมาตลอดหลายสิบปี เกษตรกร ลูกหลานในชุมชน ในหมู่บ้าน ไม่สามารถอุดหนุนลุงมาตามีที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านผลิตปุ๋ยอินทรีย์ตามวิถีภูมิปัญญา  ก็หันกลับไปหาร้านขายปุ๋ยยาเคมีเหมือนเดิม การทำเกษตรแบบใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในระยะยาวทำให้ผืนดินแผ่นน้ำเสื่อมโทรม มีสารพิษสะสมตกค้างอยู่ตามห้วย หนอง คลอง บึง  และยังสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศมากมายมหาศาลปีละหลายหมื่นล้านบาท



แนวทางการส่งเสริมให้เกษตรรู้จักการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภัณฑ์ทดแทนสารพิษ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแห่งการต่อสู้เพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี  สุขภาพดีและสิ่งแวดล้อมปลอดภัยยั่งยืนครับ

หมายเหตุ - ภาพประกอบ : พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ เยี่ยมชม ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ตำบลรำมะสัก อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น