ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส. บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรคประชาชาติ เดินทางมาพบสมาชิกพรรค รวมทั้งผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส. สงขลา ในนามพรรคประชาชาติ ทั้งเขต7 เขต8 และเขตใหม่ (อ.จะนะ-นาทวี-เทพา-สะบ้าย้อย) พร้อมผู้สนับสนุน ณ ห้องประชุมโรงแรมอัลฟาฮัจย์ หาดใหญ่
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุน และสมาชิกพรรคประชาชาติ ในพื้นที่จังหวัดสงขลาว่า “วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาพบทุกคนโดยเฉพาะท่านประธานคณะกรรมการอิสลาม ซึ่งท่านเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญและเป็นแรงบันดาลใจที่ได้มาทำงานร่วมกันคือมาทำพรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมือง ถ้าในโลกสถาบันการเมืองถือเป็นของประชาชนจริงๆคือพรรคการเมือง แต่สำหรับประเทศไทยเนื่องจากเรามีการรัฐประหารบ่อยครั้ง สถาบันที่เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนได้เข้ามาเป็นเจ้าของมีบางช่วงเวลาได้สูญหายไปจากการปฏิวัติ สถาบันทหารกลายเป็นสถาบันการเมืองเพราะเวลายึดอำนาจทหารก็จะมาทำหน้าที่บทบาททางการเมือง ความต่อเนื่องของพรรคการเมืองจึงล้มลุกคลุกคลาน สถานบันการเมืองโดยพรรคการเมืองถ้าไม่ฟังเสียงประชาชนหรือไม่ได้ทำเพื่อประชาชนจะถูกเปลี่ยนแปลงได้เร็ว”
“ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะพี่น้องของเรามีความตื่นตัวตื่นรู้ทางการเมือง พอตื่นตัวตื่นรู้ทางการเมืองก็จะเห็นว่าในอนาคตข้างหน้าจะมอบให้ใครทำหน้าที่ เขาก็เลยไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ในพรรคประชาชาติที่เราตั้งมาโดยส่วนตัวเวลาประชุมกรรมการบริหารพรรคทุกครั้งก็ยังจะบอกว่าถ้าประชาชนเรายังมีความยากลำบากหรือความทุกข์ เรายังไม่สามารถทำให้ประชาชนเราดีขึ้นได้ เรายังมีภาระที่จะต้องมาแก้ปัญหา อันนี้เป็นจุดยืนที่เราคุยกันว่าอยากให้คนที่จะมาเป็นสมาชิกของพรรคประชาชาติหรือมาเป็นกรรมการบริหารทุกคนอยากให้เป็นดาวฤกษ์คือเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง หรือเป็นตัวแทนของประชาชนที่สามารถจะพัฒนาหรือสร้างอนาคตให้กับประชาชน ในคราวเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคที่ส่งสมัคร 80 กว่าพรรค พรรคประชาชาติได้ที่ 7 ใน 80 กว่าพรรค พรรคที่เก่าๆบางพรรคยังได้น้อยกว่าเรา พรรคบางพรรคมีอดีตนายกรัฐมนตรีก็ยังได้น้อยกว่าเรา ถามว่าพอใจไหมคือการทำงานทุกอย่างไม่มีความล้มเหลว ความฝันของพรรคประชาชาติ คือพรรคเราอยากเป็นพรรคที่แก้ปัญหาของประเทศชาติไม่ว่าประชาชนผู้นั้นท่านนั้นจะอยู่ส่วนใดของประเทศ ถ้าเกิดไม่ได้รับความเสมอภาคไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้วมีชีวิตที่ยากลำบาก พรรคประชาชาติอยากจะใช้บทบาททางการเมืองเข้าไปแก้ปัญหา ซึ่งถ้าคิดในฐานของถ้าจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในระบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคการเมืองต้องมี ส.ส. 25 คน ถึงจะเสนอชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าเราจะแก้กฎหมายอยากจะทำกฎหมายนั้นดีๆของเราเองได้ต้องมี ส.ส. 20 คน เรามองว่าถ้ามีฐานเป็นพี่น้องมุสลิมสัก 5% ในประเทศ เราควรจะได้ ส.ส.สัก 25 คน ถ้า 10% ก็จะได้มากกว่านั้น ก็คงไม่ได้เป็นพรรคที่แค่พี่น้องมุสลิม เราต้องให้คนรู้จักต้องสร้างว่าถ้าไม่เลือกพรรคนี้จะเสียโอกาสหายใจทิ้งไปอีก 4 ปี การเลือกตั้งคราวที่แล้วผมคิดว่าในจังหวัดสงขลาก็อาจจะมีส่วนหนึ่งที่คิดว่าโชคดี แต่ก็อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ถ้าพรรคการเมืองคิดถึงประชาชนมากขึ้นกว่านี้” พันตำรวจเอก ทวี กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น