วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

"ทวี" นำทัพประชาชาติ พบกลุ่มคนรุ่นใหม่ ย้ำพรรคการเมืองต้องแก้ปัญหาประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ นางวรลักษณ์ ศรีสอาด เหรัญญิกพรรคประชาชาติ นายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ รองโฆษกพรรคประชาชาติ นางสาวอนุสรา มู่ฮัมหมัด คณะทำงานทีมยุทธศาสตร์และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาชาติ และคณะ เดินทางมาที่ ศูนย์การเรียนรู้ประชาชาติ Learning Center บริเวณ ศูนย์รวมอาหารฮาลาล 59 มินิพลาซ่า Mini Plaza ซอยรามคำแหง 59 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น และร่วมรับฟังปัญหาของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ กว่า 50 คน รวมทั้งร่วมประเมินทิศทางทางการเมือง และสถานการณ์การเมืองในปี 2565 พร้อมทั้งรับประทานอาหารร่วมกัน โดยกลุ่มเยาวชนได้ถ่ายภาพร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก่อนเสร็จสิ้นกิจกรรม และเดินทางกลับในเวลา 22.30น.

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมกิจกรรม ว่า "เรามีบรรยากาศอย่างนี้อาจจะอาทิตย์ละครั้ง ในช่วงนี้มีข้อมูลได้สื่อสารไปให้น้อง ๆ ได้รู้ ส่วนเรื่องคำถามเรื่องการยุบสภาฯ นั้น การตัดสินใจยุบสภาฯ อยู่ที่ พลเอกประยุทธ์ คนเดียว ตอนนี้รัฐธรรมนูญมันมีการแก้ไขแล้ว แล้วสิ่งที่รัฐธรรมนูญไม่มีความสมบูรณ์ จะต้องมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอยู่ 2 เรื่อง ก็คือพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง ก็คือการเลือกตั้งมีบัตร 2 ใบ แล้วก็อีกส่วนหนึ่งที่มาเกี่ยวข้อง คือ พ.ร.บ.พรรคการเมือง คือ กฎหมายทั่วไป ถ้าเราถามแบบว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่? คนตอบคงตอบไม่ได้ เพราะอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ แต่ถามว่าถ้ายุบแล้วรัฐธรรมนูญมีผล ก็คือมีกฎหมายลูก คือ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เรื่องการเลือกตั้งกับพรรคการเมือง ซึ่งเราก็คาดการณ์ว่าถ้ามีการเปิดประชุมวันที่ 20 กว่าเดือนกุมภาพันธ์ก่อนปิดสมัยประชุมรับหลักการวาระ 1 ก็จะมีกรรมาธิการ เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูปในสภาใช้รัฐสภาคงจะเร็ว คนก็คาดการณ์ว่าไม่เกินเดือนกรกฎาคม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนายกฯ ก็อาจจะไม่ยุบก็ได้ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ แต่สิ่งที่ปรากฏวันนี้สภาฯ มันล่มบ่อย เพราะสภาล่มบ่อยมันก็มีกฎหมายสำคัญ ถ้าเป็นกฎหมายการเงินเข้ามาอย่างนี้โอกาสเสี่ยงสูง รัฐบาลก็ไม่มีความกล้าเอากฎหมายเข้ามา ความขัดแย้งในฝ่ายรัฐบาลมีเยอะ หลายคนอาจจะสนใจทางการเมืองในเวลา 4-5 เดือน จะเห็นว่าพรรคการเมืองต่างๆ ลงพื้นที่เยอะ ดังนั้นวันนี้ ส.ส.เสร็จจากสภาฯ ก็จะกลับลงพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ของเราในภาคใต้ ส.ส.จะกลับกันหมด ดังนั้นพวกเราก็ต้องเตรียมตัว คราวนี้การเลือกตั้งระบบใหม่ คือ มันมี 400 เขต ถ้าใครดูฟุตบอล คือยิงลูกโทษกันใน 1 เขต ถ้าชนะ 1 คะแนนก็เป็น ส.ส. มาแข่งกันใคร คะแนนมากที่สุดก็เป็น ส.ส. ชนะ 50,000 คะแนนก็เป็น ส.ส. เพราะคะแนนตรงเขตนั้นไม่ไปใช้ที่อื่นเลย อย่างเขตบางกะปิให้คุณเก่งแค่ไหน ถ้าใครชนะไป 1 คนก็ถือว่าจบเลย"

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวเพิ่มเติมว่า "ดังนั้นวิธีการเลือกตั้งลักษณะนี้ จึงทำให้มีการแข่งขันกันสูงในเขต คะแนนพรรคบางคนอาจจะดูดี แต่ว่าคะแนนตัว ส.ส.ก็สำคัญ อีกส่วนหนึ่งก็คือ เป็นคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ หรือรวม ๆ คะแนน คนกลุ่มนี้ต้องการที่จะเป็น ส.ส. ที่คล้าย ๆ ว่า เชิงจะเป็นรัฐมนตรี ถ้าเป็นรัฐบาล หรือเชิญที่จะมาเป็นทีมบริหาร ทีมวิชาการ ที่มาดูปาร์ตี้ลิสต์ หรือเป็นทีมที่จะส่งสัญญาณว่าทำอย่างไรให้พรรคนี้มีเสียงดีเหมือนหาเสียงให้พรรค ก็คือทีมปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ระบบใหม่นี้ก็คือ เอาประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง ถ้าพรรคส่งมีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ไม่เกี่ยวกันพรรคอาจจะส่งเขต 30 เขต แต่ทั้ง 400 ทั่วประเทศ ก็จะมีพรรคการเมืองให้เลือก โดยพรรคการเมืองไม่ต้องส่งผู้สมัครได้ ซึ่งความนิยมพรรคจะเกิดจากสามารถพูดหรือเสนอรูปธรรม แก้ปัญหาให้ประชาชนจริง ๆ" 

"ถ้าถามว่าอายุสภาฯ จะนานแค่ไหนถ้าตอบแบบตรงๆ ก็คืออยู่ที่นายกฯ ถ้าท่านปล่อยไว้ในมุมมองว่า คือตอนนี้ สภาฯไปไม่ไหวแล้ว เหมือนว่าพรรคฝ่ายค้านต้องช่วยรัฐบาลประคับประคองให้กฎหมายลูกผ่าน อย่างเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราต้องยอมรับถ้าไปดูรายชื่อจริง ๆ ฝ่ายรัฐบาลหายไปเยอะ ส่วนเรื่องการแสดงตนก็เป็นมุมมอง อันนี้ก็อยากจะเล่าให้ฟัง" พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าว





























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น