ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบกับปัญหาเศรษฐกิจหลายปีติดต่อกัน จนทำให้ธุรกิจ FinTech ส่วนใหญ่ไปไม่รอด แม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานภาครัฐได้จัดสรรงบลงทุนสนับสนุน (Grant Base) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนั้นเป็นเพราะโครงการที่แต่ละกระทรวงจัดขึ้นนั้นมีแต่บริษัท FinTech ที่ตามล่ารางวัล เจ้าประจำเดิมๆ ซึ่งหากจะให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงและยั่งยืนนั้นรัฐบาลควรให้การสนับสนุนอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อย Soft Loan กับบริษัทที่มีศักยภาพ แต่ขาดสภาพคล่องในช่วงนี้ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ (Regulation) ที่ภาครัฐกำกับดูแลควรจะให้ทันสมัยและตอบสนองกับความต้องการในยุคปัจจุบัน อาทิเช่น กฎหมายด้านภาษีคริปโตฯ ที่มีการจัดเก็บเป็นจำนวนมากส่งผลทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยน้อยลง ซึ่งจะผลักดันให้คนไทยส่วนใหญ่หนีไปลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้นรัฐจึงควรที่จะสนับสนุนให้คนไทยและหน่วยงานภาครัฐหันมาใช้ Platform ของคนไทย เพื่อเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยเรา
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรแก้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี การออกแบบองค์กร (Organization Design) โดยกำหนดรูปแบบ โครงสร้าง และบทบาทของหน่วยงานภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของโลกในยุคปัจจุบันและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะโลกในยุคนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นายกฯ ที่ดี ควรหาเงินเข้าประเทศ หาคนเก่งจากหลากหลายอาชีพมาช่วยกันพัฒนา และหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนไทย เพราะในยุควิกฤตเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ทำให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างประเทศไม่กล้าเข้ามาลงทุนในบ้านเรา และคนไทยที่มีโอกาสก็เอาเงินไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเราอยู่ในยุค Web 3.0 Blockchain และยุค Meta หากประเทศไทยอยากที่จะหลุดออกจากวงจรของประเทศที่มีรายได้ปานกลางให้ได้นั้น เราจำต้องเข้าใจธุรกิจของโลกใหม่ พร้อมทั้งควรมีผู้นำที่เข้าใจและพร้อมที่จะปรับตัวเองให้ทันกับยุคสมัยอยู่เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น