ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ผมผ่านประสบการ์ณทางการเมืองเป็นสิบๆปี เห็นวัฏจักรการเป็นไปทางการเมืองไทยอยู่เยอะ มีตัวอย่างให้ได้สัมผัสอยู่มาก ผ่านการรับผิดชอบในด้านบริหาร ด้านนิติบัญญัติ รวมทั้งการทำงานพรรคการเมืองที่เป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่เราหวงแหนกันอยู่นี้
.
ผลการเลือกตั้งทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่อยมาถึงการเลือกตั้งซ่อมที่ลำปาง มีความหมายทางการเมืองที่สะท้อนความคิดของประชาชนได้ดีและรวดเร็วยิ่ง ว่าเขาคิดอย่างไรกับการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน
.
ในฐานะนักการเมืองอาวุโส ย่อมเห็นปรากฏการณ์ทางการเมืองในสังคมไทยเป็นอุทาหรณ์ได้เสมอ และทุกวันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าประชาชนคนไทยส่วนมาก "มิได้ต้องการ" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรีทั้งหลายมาบริหารประเทศที่เผชิญกับความเสี่ยงสูงมากทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง สวัสดิการ หรือแค่ความสามารถของพรรคแกนนำรัฐบาลที่มิอาจนำนโยบายที่ประกาศไว้ในช่วงเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่ผ่านมา เข้ามาทำให้เห็นเหมือนที่ประกาศไว้ใหญ่โต
.
หรือจะมีบ้างบางนโยบายที่ทำออกมาแล้ว ปรากฏถึงความหนักใจและห่วงใจจากหลายๆภาคส่วน ว่านโยบายที่ประกาศใช้นั้น มีผลร้ายมากกว่าผลดีต่อสังคม ยิ่งไปกว่านั้นความหวังของบรรดาเยาวชน คนรุ่นใหม่ ต่างก็แสดงออกมาโดยตลอดแล้วว่าค่อนข้างริบรี่ ไม่มีความมั่นใจในการสร้างชีวิตที่ดีภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้
.
สังคมเลยเผชิญกับความเสื่อมโทรม ยากแก่การไว้วางใจให้รัฐบาลชุดที่สืบทอดอำนาจมายาวนานกว่า 8 ปี บริหารประเทศได้ต่อไป
เราได้เห็นในสิ่งที่ไม่อยากจะเห็น ทั้งหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นโยบายที่ทำร้ายสังคมก็ถูกประกาศใช้ การวางคนที่ไม่ถูกต้องกับงาน ขยายเครือข่ายเพื่อการทุจริต การเอื้อเฟื้อตำแหน่งโดยมิพิจารณาถึงความสามารถ ความแร้นแค้นของประชาชนที่กลายเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามเมื่อยามผู้ได้ประโยชน์เป็นพรรคพวกของผู้มีอำนาจ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่กลายเป็นของเล่นที่จะเล่นเมื่อไรก็ได้ สัมปทานที่ผิดรูปผิดตัวประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้ไปหลายประการ การขึ้นค่าครองชีพทั้งหลายในขณะที่ค่าจ้าง ค่าแรง ยังขึ้นได้ช้า
.
ในฐานะกัลยาณมิตร และเป็นนักการเมืองด้วยกัน ผมมีความเห็นให้พี่น้อง ส.ส. ทั้งหลายในทุกๆพรรค โปรดพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า เราในฐานะ "สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร" เป็น "ผู้แทน" ที่ต้องทำหน้าที่แทนประชาชนในเขตเลือกตั้งที่เลือกเรามา ต้อง "พูดความจริง" ในสิ่งที่ประชาชนรู้สึก ต้อง "กล้า" ในการสะท้อนความรู้สึกของประชาชน เหมือนที่ท่านทั้งหลายเคย "กล้า" อาสาเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประชาชนในคราวก่อน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจหนนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเรา ส.ส.จะทำหน้าที่ในสมัยนี้ เช่นกันที่จะเป็น "โอกาสสุดท้าย" ของบรรดา ส.ส. ที่ติดชื่อไว้เป็น "ตัวแทนประชาชน" ว่าจะตัดสินใจทำหน้าที่ตามที่ประชาชนในพื้นที่ของเขาต้องการหรือว่าทำตาม "ใบสั่ง" ของคนไม่กี่คน ในนามประชาชนในเขตตนเอง ถ้าเป็นอย่างหลังนับว่า "อดสู" และน่าเศร้าอย่างยิ่ง
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แต่กลับรับอามิจสินจ้าง กินกล้วย รับสินบน เพื่อความอยู่รอดของคนไม่กี่คน แต่กลับทำร้ายประชาชนในระยะยาว นอกจากจะใช้ชื่อประชาชนในการเสวยสุขกับตนเองแล้ว ยังเป็นการบิดเบือนจุดยืนของการเป็น "ผู้แทนปวงชน" แบบไม่อายฟ้าดิน
.
ในโอกาสที่ท่านกำลังจะทำหน้าที่สำคัญในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายในวาระนี้ ขอให้ท่านผู้แทนราษฏรทั้งหลาย จงคิดให้รอบคอบ คิดให้ดี ยึดมั่นในอุดมการณ์ตั้งต้นตั้งแต่วันแรกที่ท่านตัดสินใจทำงานการเมือง ก็เพื่อประชาชนมิใช่หรอ จงทำหน้าที่ด้วยเกียรติยศที่ท่านมี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ประชาชนในเขตรับผิดชอบของท่านเขาต้องการ ทำในสิ่งที่จะหยุดยั้งความล้มเหลวของชาติ
.
และท่านจะได้ประกาศอย่างสมภาคภูมิว่าท่านได้ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในชัยชนะของชาติ อย่าได้ให้คนรุ่นหลัง ตราหน้าท่านว่า ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาติถอยหลัง ทำลายอนาคตของพวกเขา รับใช้ผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่งจนลืมเสียว่า "อำนาจที่แท้จริงนั้นเป็นของประชาชน"
.
เมื่อนั้นวันที่ท่านจะถูกประชาชนตอบแทนการทำงานของท่านด้วยความดีใจหรือโกรธกริ้ว ท่านทั้งหลายพิจารณาเองกันได้ เพราะอย่างไรก็ดี กรรมก็ย่อมถูกตอบแทนไปตามกรรมนั้นเสมอ, ขอความร่วมมือช่วยประเทศชาติ ประชาชน กันนะครับ.
14 กรกฏาคม 2565
กรุงเทพมหานคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น