วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

"จาตุรนต์" นำทัพเพื่อไทย ปราศรัยใหญ่กรุงเทพฯ ชี้ ต้องทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย

พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวฝั่งธนฯ” ณ ลานตรงข้ามตลาดบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมเวที โดยมีประชาชนในเขตฝั่งธนบุรีทราบข่าวเดินทางมาฟังปราศรัยอย่างคับคั่ง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย มีเนื้อหาระบุว่า ประชาชนเดือดร้อนมาตลอด 9 ปี มีการก่อหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ เงินราชการรั่วไหลปีเดียว 3 แสนล้าน รวมทั้งดัชนีการคอร์รัปชันสูงขึ้นเท่าตัว ประยุทธ์ไม่ยอมให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แม้ว่าพี่น้องอยากเปลี่ยนรัฐบาลอยากให้ประยุทธ์ออกไป แต่ประยุทธ์ยังไม่ยอม โดยเมื่อ 3-4 วันก่อนไปบอกว่าไปหาเสียงพบประชาชนมากๆก็รู้ว่า “ประชาชนเขาเบื่อผมแล้ว” ประยุทธ์เพิ่งมารู้แต่ที่จริงประชาชนเบื่อมานานแล้ว ส่วน 2 วันก่อนประยุทธ์มาพูดอีกบอกว่าคนชอบว่า “ผมทำผิดอยู่เรื่อย” ทำให้เห็นว่าประยุทธ์ยังไม่รู้ตัวอีกว่าคนทั้งประเทศเขารู้ว่าคุณทำผิดมาขนาดไหน

ไม่มีความรู้ทางด้านเศรษฐกิจมาบริหารประเทศ 9 ปีเสียหายมาก ไปพูดที่ชลบุรีบอกว่า “จะเถียงผมก็เถียงไป จะด่าผมก็ด่าไป อย่ามาด้อยค่าประเทศ” แต่พี่น้องครั้งประชาชนไม่มีใครด้อยค่าประเทศ 

คนที่ทำให้ประเทศไทยไม่มีที่ยืนในเวทีโลก เพราะว่าเป็นเผด็จการเต็มขั้น 5 ปี ประเทศไทยไม่ได้อาศัยเวทีโลกทำการค้าขาย เลยเพราะว่าประยุทธ์ติดนิสัยเผด็จการก็ไม่เจรจากับใคร 9 ปีมาแล้วประเทศไทยไม่ได้ทำข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ FDA กับประเทศไหนเลย แต่เวียดนาม สิงคโปร์อินโดนีเซียทำไปก้าวหน้ากว่าไทยมากแล้ว

ด้อยค่าประเทศแบบนี้ ประเทศถึงเสียหายเป็นหนี้สาธารณะ โดยก่อหนี้สาธารณะมากกว่านายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ 28 คนรวมกัน 

ปัญหาคือ ด้อยค่าประเทศไทย และจะไม่มีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ เพราะปัญหาของประเทศตอนนี้เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านด้านหนึ่งคือปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ปัญหายาเสพติด ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น และความยุติธรรม แต่เรื่องใหญ่มากคือเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนอีกด้านหนึ่งของเหรียญคือต้องทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย 

ซึ่งทั้ง 2 ด้านนี้จะต้องแก้ไปพร้อมกัน ซึ่งพรรคที่ทำได้และพิสูจน์มาแล้ว เคยทำมาแล้ว และตอนนี้มีนโยบายชัดเจนส่ง กกต.ไปทั้ง 2 เรื่อง คือพรรคเพื่อไทยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น