ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.35 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขึ้นชี้แจง ว่า รัฐบาลได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด โดย พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ 2560 มีมาก่อนการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายเดิม เกิดจากกฎหมายเดิมนั้นไม่สามารถจัดการหรือบริหารนักโทษได้อย่างเหมาะสม ทำให้ต้องแก้กฎหมายราชทัณฑ์ 2560 ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล ทั้งนี้ ปัจจุบันเรือนจำมีผู้ต้องขัง จำนวน 280,000 คน ซึ่งล้นเรือนจำ และเกินอัตราที่รับรองได้ ทำให้สอบตกตามมาตรฐานสากล ซึ่งการที่มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากรัฐต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมาย ต้องธำรงค์ไว้ซึ่งหลักนิติธรรม อย่างไรก็ตาม การออกกฎกระทรวงและระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ แต่มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ผ่านคณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์เพื่อฟื้นฟูหลักนิติธรรม และเป็นไปตามหลักกฎหมาย โดยราชทัณฑ์มีระเบียบกฎเกณฑ์ที่ต้องออกเพื่อจำแนกผู้ต้องขังตามเกณฑ์ที่นานาชาติยอมรับ ทั้งพฤตินิสัย การศึกษา การอบรม กลุ่มผู้ต้องขังเจ็บป่วย การรักษาพยาบาล และการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุด้วยว่า จากประเด็นที่กล่าวว่าราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติกรณีอดีตนายกฯ ถือว่าไม่เป็นความจริง เพราะราชทัณฑ์ไม่ได้เลือกปฏิบัติ และมีการดำเนินการตามหลักยุติธรรม หากเจ็บป่วย ก็ต้องได้รับการรักษา เนื่องจากการเจ็บป่วยของท่านเกิดก่อนรัฐบาลชุดนี้เข้ามา และจากการตรวจสอบกับแพทย์พบว่าป่วยจริงจากแพทย์หลายคน องค์กรหลายหน่วยงาน เกินกว่า 120 วัน โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พิจารณาตรวจสอบเพื่อให้ความเห็นชอบ สำหรับข้อท้วงติงเรื่องงบประมาณของกรมราชทัณฑ์จำนวนมากนั้น ตนขอยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นไปเพื่อต้องการพัฒนาสถานที่สร้างคน สร้างชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น